ในช่วงที่เศรษฐกิจของเมืองไทยเผชิญกับภาวะวิกฤตนั้น แน่นอนว่าหลายๆคนอาจจะต้องเข้าสู่ภาวะตกงาน ไม่ว่าจะตกงานด้วยการเลิกจ้างหรือว่าอาจจะตกงานเพราะเราลาออกเองก็ตาม เมื่อคุณอยู่ในภาวะตกงานนั้น สิ่งสำคัญที่สุดก็คือการหารายได้มาเพื่อเลี้ยงชีพระหว่างหางานใหม่นั่นเอง ซึ่งฝ่ายบุคคลส่วนใหญ่จะแนะนำอยู่แล้ว แต่หากใครที่ฝ่ายบุคคลไม่แนะนำ ผมก็ขออนุญาติบอกว่า อย่าเพิ่งตกใจกับการตกงาน ให้ไปลงทะเบียนว่างงานกันก่อนดีกว่า
ลงทะเบียนว่างงานอย่างไร
1.หากว่าคุณทำงานมามากกว่า 6 เดือน หรือพูดง่ายๆคือ จ่ายประกันสังคมมามากกว่า 6 เดือนคุณจะได้รับสิทธิ์เงินช่วยเหลือกรณีว่างงาน โดยหากว่าคุณถูกปลดออกจากงาน (ไม่ได้โดนไล่ออกเนื่องจากทำความผิดร้ายแรง) คุณก็จะได้รับเงินช่วยเหลือ 50% ของเงินเดือนไปอีก 180 วัน (เพดานสูงสุดของเงินเดือน 15000 บาท) แต่ถ้าคุณลาออกเอง คุณก็จะได้ 30% เป็นเวลา 90 วัน ลาออกเองนี่รวมถึงการหมดสัญญาจ้างด้วยนะครับ
2.ต้องไปลงทะเบียนว่างงานภายใน 30 วัน แนะนำว่าหลังจากที่ออกจากงานแล้วให้นับไปอีก 15 วันค่อยไปลง เพราะต้องเผื่อฝ่ายบุคคลของบริษัทเราในการทำงานด้วยครับ เตรียมเอกสารคือ บัตรประชาชนพร้อมสำเนา รูปถ่าย 1 ใบ สำเนาสมุดบัญชี และเอกสารการออกจากงาน ไปที่สำนักงานจัดหางานใกล้บ้านครับ
3.เราจะได้รับสิทธิ์ตั้งแต่วันที่ 8 หลังออกจากงาน
4.ต้องไปรายงานตัวกับสำนักงานหางานจังหวัดไหนก็ได้เดือนละ 1 ครั้งด้วยนะครับ
แล้วเงินจะได้เมื่อไหร่
เงินจะได้รับหลังจากเราไปรายงานตัวครั้งแรกแล้วประมาณ 3-5 วันครับ รวดเร็วไม่ชักช้าแน่นอน โดยจะโอนเข้าบัญชีของคุณครับ
เห็นไหมครับไม่ยากเลย บางคนที่จ่ายเงินประกันสังคมไปทุกเดือน เราได้จ่ายในส่วนของการว่างงานไว้อยู่แล้ว เพียงแต่ว่าบางคนอาจจะไม่รู้เท่านั้นเอง ในระหว่างที่ตกงาน รับเงินช่วยเหลือนี้ อย่าลืมหางานไปด้วยนะครับ เพราะในการรายงานตัวแต่ละเดือนเราต้องมีหลักฐานการพยายามหางานไปแสดงด้วยครับ เราอาจจะปริ้นอีเมล์สมัครงานของเราไปแนบด้วยก็ได้ หรือ หากว่าต้องการให้จัดหางานช่วยหางาน เราก็ขึ้นทะเบียนหางานที่สำนักจัดหางานด้วยเลยก็ได้ครับ บางครั้งจัดหางานชอบจัดอบรมสร้างอาชีพหรือพัฒนาอาชีพดีๆเยอะเลยทีเดียว ใครอยากได้รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถเข้าไปในเว็บไซต์ของกรมจัดหางานได้ครับ
หมายเหตุ สมุดบัญชีเราสามารถเปิดได้ 9 ธนาคารดังนี้ นะครับ
1) ธนาคารกรุงไทย จำกัด(มหาชน) KTB
2) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด(มหาชน) BAY
3) ธนาคารกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) BBL
4) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน) SCB
5) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) KBANK
6) ธนาคารทหารไทย จำกัด(มหาชน) TMB
7) ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) TBANK
8) ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย จำกัด (มหาชน) CIMB
9) ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย IBANK
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น